วิดีโอสัมภาษณ์ 1

บาริสต้าคนที่ 1 คุณอทิตยา สุริยันต์  (หัวหน้าบาริสต้าประจำร้าน Café Amazon สาขาปั๊ม PTT สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์)

บาริสต้า : สวัสดีครับ

ผู้สัมภาษณ์ : สวัสดีค่ะ ก่อนจะทำการสัมภาษณ์นะคะ หนูขอแนะนำตัวเองนะคะ หนูชื่อนางสาวสุมิตตา ภู่บัวค่ะ หรือเรียกสั้นๆว่าสุก็ได้นะคะ วันนี้หนูจะมาทำการสัมภาษณ์ข้อมูล ความรู้เกี่ยวกับกาแฟ เพื่อนำข้อมูลไปทำเว็บบล็อกค่ะ ก่อนที่จะทำการสัมภาษณ์คำถามข้อที่ 1 นะคะ อยากให้พี่แนะนำตัวว่าพี่ชื่ออะไร ชื่อเล่นชื่ออะไรคะ?

บาริสต้า : สวัสดีครับ ชื่อนางสาวอทิตยา สุริยันต์ ชื่อเล่นชื่อแตน เป็นพนักงานประจำร้าน Amazon ที่นี่ครับผม

ผู้สัมภาษณ์ : โอเคค่ะ คำถามที่จะถามข้อแรกคือ พี่เริ่มทำงานที่นี่มานานหรือยังคะ?

บาริสต้า : ก็ถ้ารวมในวงการ Amazon นะ ก็ประมาณ 2 ปีได้

ผู้สัมภาษณ์ : อย่างนี้พี่ก็เคยทำงานที่อื่นมาก่อน ทำที่ไหนมาคะ?

บาริสต้า : ใช่ทำที่อื่นมา ก็คือที่ Central สาขาแจ้งวัฒนะ ทำมาได้ประมาณ 5-6 เดือน

ผู้สัมภาษณ์ : คือเป็น Amazon เหมือนกันใช่ไหมคะ?

บาริสต้า : ช่าย เป็น Amazon เหมือนกัน

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วอย่างพี่เคยทำในห้างมากับในปั๊ม พี่ว่ามันต่างกันยังไงบ้างคะ มันต่างกันมากไหม?

บาริสต้า : มันต่างกันตรงที่ว่าลูกค้าเท่าไหร่ห้างเนี่ยลูกค้าจะน้อยแต่ในปั๊มเนี่ยจะเยอะกว่า เพราะว่าตามห้างเนี่ยจะเปิด 10 โมงในวันธรรมดา แต่ถ้าเสาร์-อาทิตย์เนี่ยจะเปิด 10 โมงครึ่ง ซึ่งลูกค้าก็จะแบบ 10 โมงครึ่ง ใครจะกินกาแฟถูกป่ะ ก็ต้องกินตอนเช้า เค้าก็เลยต้องมาใช้บริการตามปั๊มมากกว่า

ผู้สัมภาษณ์ : อย่างนี้คนก็เยอะด้วยตอนเช้าๆเลย เปิดตั้งแต่กี่โมงคะ?

บาริสต้า : ใช่ เพราะร้านเราเนี่ยเปิดตั้งแต่ 6 โมง ให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าแล้วก็ปิดบริการถึงทุ่มนึงเหมาะกับไปเที่ยวต่างจังหวัดก็พักรถ สะดวกสบายเหมาะกับการพักรถแวะมากินกาแฟ ที่จอดรถเยอะกว่าตามห้างกว่าจะได้ที่จอดรถก็น่าจะนานอยู่

ผู้สัมภาษณ์ : ด้วยว่าเค้ามีตัวเลือกเยอะด้วยใช่ไหมคะพี่?

บาริสต้า : ใช่ครับตามห้างเนี่ยตัวเลือกจะเยอะจะมีหลายแบรด์นนอกจากจะเป็น Starbucks, coffee world หรือแบรนด์อื่นๆอีกมากมาย แล้วก็แล้วแต่โปรโมชั่นของเค้าเพราะว่าอย่าง Starbucks เนี่ยวันพุธก็จะลดเปอร์เซ็นต์ของเค้าอาจจะเป็น1แถม1  แต่ Amazonเนี่ยยังไม่เจาะโปรโมชั่นแบบนั้น ซึ่งลูกค้าก็เลยไปทางนั้นมากกว่า

ผู้สัมภาษณ์ : ค่ะ แล้วอย่างงี้ กาแฟในห้างกับที่นี่เนี่ยในปั๊ม ต่างกันไหมหรือว่าไม่ต่างกันเลย?

บาริสต้า : มันต่างกันแค่จุดเดียว กาแฟปกติเนี่ยก็จะมีในปั๊มกะในห้างเพิ่มมาตัวนึง คือกาแฟพรีเมี่ยมเป็นกาแฟที่กินแล้วนุ่มกว่า ไม่เข้มจนเฟื่อนคอบาดคอ มันนุ่ม ที่เขาเรียกกันว่เอสเพรสโซ่ มันจะมีเอสเพรสโซ่ 2 แบบ มีเอสเพรสโซ่แบบปกติกับเอสเพรสโซ่แบบพรีเมี่ยม มันจะคละแบบกันเลย อยู่ที่ลูกค้าชอบแบบไหนมากกว่ากัน บางทีแบบลูกค้ากินกาแฟเกรดปกติแล้วมาลองกินของพรีเมี่ยมเนี่ย ก็ต้องเปลี่ยนใจมากินพรีเมี่ยมเพราะว่ามันโอเคกว่านะ

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วอย่างนี้ราคากาแฟพรีเมี่ยมต่างกันมั้ยคะ?

บาริสต้า : ต่างกันแค่ 10 บาท

ผู้สัมภาษณ์ : ก็จะมีในห้างอย่างเดียวในปั๊มไม่ค่อยมีใช่ไหมคะ?

บาริสต้า : ปั๊มพี่ไม่แน่ใจนะ พี่คิดว่าไม่มี มีตามห้างมากกว่า

ผู้สัมภาษณ์: อ่อโอเคค่ะ แล้วอย่างงี้ มีเมนูทั้งหมดที่เป็นกาแฟเลยมีกี่ตัวแล้วมีอะไรบ้าง?

บาริสต้า : กาแฟทั้งหมดจะมี 12 ตัว ตัวแรกก็จะเป็นเอสเพรสโซ่ คาปู ลาเต้ มอคค่า

ผู้สัมภาษณ์ : เป็นกาแฟใส่โกโก้ใช่ไหมคะ ?

บาริสต้า :  อ่า ใช่ครับเป็นกาแฟใส่ผงโกโก้ นิยมกินกันเยอะเหมือนกัน บางทีแบบลูกค้าสั่งช็อกโกแลตเพิ่มช็อต. ก็จะแนะนำให้ลูกค้าลองเป็นมอคค่าดีไหมจะได้สมูทเหมือนกัน แล้วก็ต่อที่อเมซอนเอ็กซ์ตร้า จะเป็นกาแฟสามช็อตที่ต่างจากทั่วไปทั้งหมด เพราะเอ็กซ์ต้าเพิ่มมาหนึ่งช็อต จากปกติที่มีสอง จะมีรสชาติเข้มหวานมันมีตัวเลย ถ้าใครชอบรสชาติประมาณนี้อ่ะ ต่อไปก็จะเป็นไวท์ช็อกเย็น

ผู้สัมภาษณ์ : อันนี้น่ากินมาก

บาริสต้า : ใช่ครับมันจะเป็น นมสดใส่ไซรัปไวท์ช็อก แล้วข้างบนก็ราดด้วยกาแฟ

ผู้สัมภาษณ์ : ไซรัปนี้เป็นกลิ่นใช่ไหมคะ ?

บาริสต้า : ใช่ เป็นกลิ่นไวท์ช็อกเลยครับ แล้วก็ตัวหนึ่งเป็นแบล็คคอฟฟี่ แบล็คคอฟฟี่ฮันนี่ไลท์ เป็นกาแฟเพื่อสุขภาพเหมาะกับคนรักสุขภาพเพราะว่าใช้น้ำผึ้งแค่ 0.5 และ น้ำอุณหภูมิห้อง มาเกือบกับกาแฟนิดนึงไม่ให้มันหวานมากเกินไป อีกตัวนึงเป็น แบล็คคอฟฟี่จะมีทั้งหมด 3 ตัว ตัวแรกจะใส่น้ำตาลอีกตัวนึงใส่น้ำผึ้งและแล้วก็อีกตัวนึงเป็นเมนูใหม่ของร้านคือแบล็คคอฟฟี่ฮันนี่มะนาวเป็ตัวใหม่ ตอนแรกมันเป็นแบล็คคอฟฟี่น้ำผึ้งใช่ไหม

ผู้สัมภาษณ์ : ใช่ คืออันนี้ก็เหมือนมีมะนาวเพิ่มมาด้วย

บาริสต้า :ใช่ คือมีลูกค้าบางคนเนี่ย อาจจะเอาแบล็คคอฟฟี่น้ำผึ้ง เพิ่มมะนาวไรเงี้ย ก็ตัดปัญหาเพิ่มมาเลยตัวนึงทางบริษัทก็เลยเพิ่มมา ก็จะมีแค่นี้

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วอย่าง แบล็คคอฟฟี่กับเอสเพรสโซ่มันต่างกันยังไง?

บาริสต้า : ต่างกันครับ เพราะว่าแบล็คคอฟฟี่เป็นเหมือนกาแฟดำ คล้ายๆโอเลี้ยงตามบ้านเราสีดำๆจะมีแค่น้ำตาล แล้วก็เอสเพรสโซ่เนี่ยจะเป็นกาแฟใส่นมซึ่งใส่นมข้นหวานข้นจืดแล้วแต่ความต้องการของลูกค้า

ผู้สัมภาษณ์ : อย่างคนสั่งแบล็คคอฟฟี่ไม่หวานเลยก็คือไม่ใส่น้ำตาล

บาริสต้า : ใช่ครับ คือเป็นกาแฟสดๆเลย เข้มไปเลย

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วพี่คิดว่ากาแฟที่ดีสำหรับพี่คือจะต้องเป็นยังไงบ้าง?

บาริสต้า : กาแฟที่ดีสำหรับพี่คือต้องไม่อ่อนเกินไปไม่เข้มเกินไปไม่ไหลไวเกินหรือช้าเกิน มันต้องอยู่ในความพอดีที่บริษัทเขากำหนดมา ถ้ามันไหลเร็วไปกาแฟก็จะออกรสชาติจืดไปเลย ส่วนถ้ามันไหลช้าแบบมากๆก็จะทำให้กาแฟเข้มเกินไป มันก็จะไม่อร่อย เพราะฉะนั้นเค้าต้องกำหนดมาให้อยู่ในระยะเวลานี้ในการไหลของกาแฟ

ผู้สัมภาษณ์ : ว่าต้องเท่านี้ๆ

บาริสต้า : ใช่

ผู้สัมภาษณ์ : อย่างนี้คือเรียกว่าเพอร์เฟคช็อตใช่ไหมคะ?

บาริสต้า : ใช่

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วหนูอยากรู้ว่าต้องทำยังไงอ่ะคะถึงจะได้เพอร์เฟคช็อต?

บาริสต้า : เราต้องเช็คช็อตกาแฟทุกเช้าตอนเราเปิดร้าน ก็ต้องเช็คกาแฟว่ามันอยู่ในเกณฑ์ที่เราต้องการไหมระยะเวลาที่เราอัดกาแฟไปมันต่างกันแค่5วินาที ถ้ามันหยุดก่อนเกณฑ์ก็ไม่ได้และ หรือถ้าไหลช้าเกินไป เอาเกินไปเลยเนี่ยก็ไม่ได้อาจจะต้องตั้งใหม่

ผู้สัมภาษณ์ : ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะพี่แตน

บาริสต้า : ขอบคุณครับ

สรุปความรู้ที่ได้รับจากการไปสัมภาษณ์ : ได้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างในห้างกับในปั๊มของร้าน Amazon ว่ามีความต่างกันยังไงต่างกันตรงไหน รู้ถึง เครื่องดื่มที่เป็นกาแฟทั้งหมดในร้านว่ามีกี่ตัวมีอะไรบ้างได้รู้ว่า จริงๆแล้ว Espresso กับ Black coffee มีความต่างกันตรงไหนอย่างไรบ้าง ได้รู้ถึง ลักษณะของกาแฟที่ดีว่าต้องมีคุณสมบัติยังไงบ้าง และคำว่า Perfect Shot คืออะไร ทำอย่างถึงจะได้ Perfect Shot และสุดท้ายรู้ถึงการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าตอนทำการสัมภาษณ์ที่มีเสียงโทรศัพท์เข้าไปบ้าง แต่ก็รีบทำการจบคลิปได้อย่างราบรื่น ได้รู้จักการเตรียมพร้อมทั้งอุปกรณ์ กล้องขาตั้งกล้อง สถานที่ มีการอัดสำรองไว้กันเสีย เพื่อที่จะไม่ได้เสียเวลาถ่ายใหม่ ในรอบแรกอาจจะมีไม่ถึง 5 นาที เราทำการขอถ่ายอีกรอบเพื่องานที่มีคุณภาพที่สุด

ใน Blog จะใช้ Creative Commons แบบ Attribution CC – BY -ND ให้เผยแพร่โดยต้องระบุที่มา แต่ห้ามดัดแปลงและห้ามใช้เพื่อการค้า เพราะคิดว่างานสัมภาษณ์ที่ทำใน Blog สามารถนำไปเผยแพร่เป็นความรู้สำหรับคนอื่นๆอีกหลายคนได้ แต่ควรให้ Credit ว่ามาจากใคร อะไรยังไง และไม่ให้นำไปดัดแปลงเพราะการที่เราสามารถให้ผู้อื่นเข้ามาดัดแปลงงานเราได้ เราไม่รู้ว่าจะถูกนำงานไปใช้เพื่ออย่างอื่นหรือเปล่า อาจจะถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี เลยคิดว่าห้ามดัดแปลงดีกว่าทางที่ดีที่สุด